Enjoy HAM life. Experiment and Sharing
หลังจากที่เราแกะกล่อง Raspberry Pi ไปกันแล้ว วันนี้เรามาทดลองเปิดใช้เลยครับ อันดับแรก ก็หาอุปกรณ์ที่จำเป็นๆ สำหรับการทดลองก่อน เพราะบางคนซื้อแค่ Raspberry Pi มาอาจจะมีบอร์ดมาอันเดียว ไม่ได้ซื้ออุปกรณ์รอบๆ ข้างมา เอาล่ะถ้าพร้อมกันแล้วมาเริ่มกันเลยครับ
Raspberry Pi ก็คือ บอร์ดไมโครคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วครับ โดยความสามารถของมันก็คือจะมีคุณสมบัติพื้นฐานที่เหมือนกับคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะมีหน่วยประมวลผลกลาง CPU หน่วยความจำชั่วคราว RAM หน่วยความจำถาวร microSD ตลอดจน Input/Output port อย่าง Video out / Audio Out ความสามารถทางด้านการสื่อสารผ่านเน็ตเวิร์ค LAN ซึ่งคุณสมบัติอันครบครันเหล่านี้ ทำให้มันสามารถรันระบบปฏิบัติการ OS ได้อย่างสบายครับ ซึ่ง ระบบปฏิบัติการที่ใช้จะเป็น Debian Linux ที่ถูก optimize ให้สามารถรันบนบอร์ดนี้ได้ ซึ่งก็แน่นอนครับ ในเรื่องของการนำไปใช้งาน ย่อมจะสะดวกขึ้น เพราะทุกอย่าง OS มันจะคอยจัดการให้เรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Video, Audio, หรือ Network จึงทำให้เราลดเวลาในการพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ครับ อาศัยความรู้ทางด้านเขียนโปรแกรมนิดๆ หน่อยๆ บางคนที่ถนัดการเขียนโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ก็ไม่ยากที่จะมาเขียนโปรแกรมบน Raspberry Pi Board ได้ด้วย
สำหรับวันนี้ผมยังไม่แนะนำอะไรมากครับ เพราะเพิ่งจะได้บอร์ด Raspberry Pi มาลองเล่น ด้วยผู้สนับสนุนใจดีท่านหนึ่ง ได้บริจาคบอร์ดมือหนึงให้ผมมาทดลอง ผมก็เลยถือโอกาสนี้ มอบความรู้คืนสู่สังคมครับ ^____^
จะว่าไปแล้วผมได้ห่างเหินจากวงการของ micro controller มานานมากๆ ครับ นับได้ก็ตั้งแต่เรียนจบ ป.ตรี ก็ไม่ได้จับมันอีกเลย (หันมาจับ mouse และ keyboard อย่างเดียว) และเคยมีความคิดที่จะไปให้ห่างๆ จาก hardware พวกนี้ครับ เพราะด้วยเหตุผลอย่างหนึ่งคือ ยิ่งอยู่กับมันมากเท่าไหร่ รอบๆ อณาบริเวณที่ผมอาศัยอยู่มันจะรกมากเท่านั้น 555+ นี่ยังไม่นับกับการต้องอดหลับอดนอนดึกๆ ดื่น เพราะว่าต่อวงจรอีกเยอะแยะมากมาย ไหนจะต้องมาทนดมกลิ่นตะกั่วและหัวแร้งอีก จนมาถึงวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้วครับ ผมกำลังหันหน้าวิ่งเข้าหามันอีกครั้ง พร้อมด้วยความหวังและความฝันในการสรรค์สร้างสิ่งต่างๆ อย่างเต็มเปี่ยม
บทความนี้เรียกได้ว่าจดเอาไว้เป็นบันทึกของตัวเองก็ได้ครับ เพราะเว็บตัวเองก็เคยประสบปัญหาเรื่อง malware บุกเว็บ ทำให้เว็บเสียหายไปหลายครั้งเหมือนกัน และปัญหานี้ยังเกิดกับเพื่อนๆ อีกหลายคน แต่ปัญหาที่น่าปวดหัวไปกว่านั้นก็คือ การค้นหาวิธีที่เราเคยสามารถตรวจและกำจัด malware พวกนี้ไม่ได้ ทำให้เสียเวลาค้นหาไปหลายชั่วโมง ผมเลยมีความคิดที่จะเอามาเขียนเป็นบทความไว้เลยครับ เผื่อไว้วันหลังเว็บตัวเองเจอ malware บุกอีก จะได้ค้นหาวิธีได้ง่ายๆ หรือแนะนำวิธีให้เพื่อนๆ ได้ง่ายๆ ถ้าประสบปัญหาที่ผมเคยเจอมาเช่นกันครับ
โลกของ internet ในการโฆษณาทำงานผ่านเน็ต ดูเหมือนจะเป็นเรื่องในแง่ลบสำหรับผม และอีกหลายๆ คนนะครับ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเริ่มแรกที่เราได้รู้จักวิธีการหารายได้ผ่านเน็ต ไม่ว่าจากการชักชวนตามสือหรือเว็บไซต์ต่างๆ เราก็อาจจะเริ่มถูกหลอกตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ในอีกมุมหนึ่ง การหาเงินผ่านเน็ต ก็สามารถทำได้จริงๆ ครับ ถ้าไม่เชื่อจากการลองทำดู ก็อาจจะไม่เชื่อตลอดไป อย่างหนึ่งที่จะทำให้เราเริ่มมีรายได้ นั้นก็คือการปรับความเชื่อก่อนครับว่าระบบพวกนี้มันหารายได้มาเข้ากระเป๋าคุณได้จริงๆ แต่จะมากหรือน้อยก็ขึ้นกับเทคนิคและวิธีการของแต่ละคนครับ
วันนี้ผมเลยมีของเล่นใหม่ ที่จะช่วยให้ท่านผู้อ่านไปเรียนรู้และทดลองหาเงินได้อีกวิธีหนึ่ง นั้นก็คือการเป็นนายหน้าขายของให้กับ Linkshare ครับ ก่อนหน้านั้นที่โด่งดังมาก่อน ก็จะเป็นของ Amazon ที่เห็นมีหลายๆคนได้ลองทำแล้วก็โกยรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่สำหรับของ LinkShare ที่ผมได้ลองเข้าไปสัมผัสมาเมื่อสักครู่ ก็ทำให้ผมเกิดคันไม้คันมืออยากจะมาเขียนเล่าประสบการณ์ให้หลายๆคนได้พังกันเลยครับ
พอดีช่วงนี้ผมได้มีโอกาสได้ทดลองเล่นกล้องบันทึกภาพ HD ที่ใช้ติดรถยนต์ที่ใช้กับการ์ด micro SD ครับ ถึงตัวเก่าที่มันแถมกับกล้องมาก็มีความจุน้อยซะเหลือเกิน แค่ 4GB เลยต้องทำให้ผมไปขวนขวายหา card micro SD ที่มีความจุสูงๆ มาเพิ่มครับ แรกๆ ก็ไม่ได้เอะใจเท่าไหร่ ไปซื้อเอาตามท้องตลาด โดยไม่ได้รู้เรื่องการแบ่ง class ของการ์ดเหล่านี้เลย เห็นราคาไม่แพงก็เลยจัดมาซะ ตัวแรกเป็น kington 32GB Class4 เห็นราคามันไม่แพง ก็เลยจัดมาซะ ปรากฎว่า ไม่ได้เรื่องเลยครับ มันเขียนข้อมูลเอาช้ามากๆ จนเราเองทนไม่ไหวเลยไปลองศึกษาข้อมูล card เหล่านี้ดูจนได้ตัว sanddisk class 10 มาใช้ครับ ^^
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปปชมคอนเสิร์ตมาลีฮวนน่าครับ เป็นคอนเสิร์ตโอโซนแบบสบายๆ นั่งบนกองฟางกลางแจ้ง จำนวนคนดูก็ไม่เยอะเท่าไหร่ เลยมีโอกาสได้สัมผัสศิลปินได้อย่างใกล้ชิต ซึ่งก็เป็นความทรงจำที่ดีอีกครั้งหนึ่งครับ การการชมคอนเสิร์ตครั้งผ่านๆ มา โดยเฉพาะ เมื่อปี 2011 ปีนั้นผมได้มีโอกาสไปทัวร์คอนเสิร์ต 30 ปี คาราบาวแบบว่า มีที่ไหนพอจะได้ ก็ไปมันทุกที่ จนนับจำนวนครั้งทัวร์ที่ติดๆ กันได้ 16 ครั้งเลยครับในปีนั้น
หลังจากพ้นปี 2011 ผมก็ไม่ค่อยได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตอีกเลยเพราะหมดรอบ อิอิ ก็มาช่วงปีนี้แหละ ที่ไปครั้งสองครั้ง จนผมเกิดคำถามขึ้นในใจว่า “การไปทัวร์คอนเสิร์ตแต่ละครั้ง เราได้อะไร?” และ “ทำไมถึงต้องไปตามดูหลายๆ ครั้งด้วย?” มาวันนี้ผมพอจะค้นพบอะไรบางอย่างแล้วครั้บ หลังจากที่ผมกลับมาจากการชมคอนเสิร์ตมาลีฮวนน่าเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2556
ช่วงนี้พอมีเวลาว่าง มานั่งอ่านบทความเกี่ยวกับวิธีทำเงินบน Internet เยอะครับ ก็เลยอยากเอามาแบ่งปันให้สำหรับผู้ที่สนใจ เผื่อจะเป็นแนวทาง หรือก่อให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ที่จะทำให้การมีรายได้จาก Internet นั้นเป็นเรื่องจริงขึ้นมาได้ครับ ผมเองก็ใช้เวลาศึกษาเรื่องเกี่ยวกับพวกนี้อยู่พอสมควร แต่ก็พอได้เงินกลับมาบ้างแต่ไม่มากเท่าที่ควร ก็พอเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการเช่า host จด domain เช่า VPS อะไรพวกนี้ได้ครับ และคิดว่าถ้าเรามีความตั้งใจที่จะทำให้มันเกิดได้จริง ผมว่าเป้าหมายเราคงอยู่ไม่ไกลจากความฝันแน่นอนครับ
เอาล่ะ เรามาเริ่มกันดีกว่า ว่าวิธีการที่จะทำให้เรามีรายได้ผ่าน Internet นั้นมีอะไรบ้าง
สวัสดีวันอากาศหนาวๆ เย็นๆ ปลายปี 2555 นะครับ ช่วงนี้ผมได้มีโอกาสได้เข้าไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกล้องติดรถยนต์ และได้ลองซื้อมาใช้ตัวนึง ก็เลยอยากลองมาเขียนรีวิวให้กับผู้ที่สนใจใช้เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อกล้องติดรถยนต์สักตัวหนึ่งนะครับ เอาละเรามาเริ่มกันดีกว่า
ทำไมต้องมีกล้องติดรถยนต์
เป็นคำถามสุดฮิตง่ายๆ นะครับ ว่าทำไมต้องจ่ายเงินราคาเป็นพันเพื่อซื้อกล้องติดรถยนต์ ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือใช้บันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ในขณะเราขับรถครับ พูดง่ายๆ ก็เหมือนกับการทำ Log file เวลาเราใช้งานโปรแกรมอะไรสักอย่างหนึ่งเก็บไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงภายหลัง แต่คราวนี้ในเวลาเราขับรถ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรต่างๆ ต่อหน้าเรา เช่น มอเตอร์ไซต์ตัดหน้า มีรถยนต์เบรคกระทันหัน ตำรวจตั้งด่าน หรือแม้แต่เก็บภาพประทับใจในการเดินทางต่างๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนจำเป็นครับ สำหรับการดึงมาตรวจสอบภายหลัง เรียกว่าป้องกันไว้ก่อนโดยการเก็บหลักฐานไว้เพื่ออ้างอิงในกรณีฉุกเฉินภายหลังได้ครับ
วันนี้จะมาขอเปลี่ยนไสตล์การเขียน blog จากแนะนำ software มาเป็นเรื่องเล่าตามแนวความคิดละกันนะครับ ในขณะที่เขียน blog เรื่องนี้อยู่ ผมอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในราชธานีครับ ไม่ได้ในฐานะคนป่วย แต่เป็นหนึ่งในฐานะของคนเฝ้าไข้
เรื่องเกิดขึ้นจากเมื่อคืนวานในขณะที่ผมกำลังหลับไหลอยู่ที่ห้องพัก ด้วยอาการ ง่วง เมื่อย เพลีย เนื่องจากฤทของหวัดที่เป็นมานานนับสัปดาห์ หลังจากหยิบโทรศัพท์มาดูก็พบว่ามี miscall เข้ามา 48 สาย!! แต่ไม่ได้ยินครับ เพราะผมปิดทั้งระบบสั่นและระบบเสียง ต่อเนื่องมาจากที่ทำงานเพราะกลัวเสียงไปรบกวนคนอื่น
แรกๆ ไม่ได้คิดอะไรครับ นึกว่าที่ทำงานโทรมาตามงานปกติ ก็เลยรีบนอนครับ !! เพราะว่าตื่นเช้าจะได้รีบเข้าไปดูว่ามันเกิดปัญหาอะไรขึ้นทั้งๆ ที่ไม่ได้โทรกลับ
แต่ทว่า มันไม่ใช่…
